เมื่อเราสามารถเข้าถึงข้อมูลทุกอย่างได้ผ่านอินเตอร์เน็ต การศึกษาในโรงเรียนยังจำเป็นอยู่ไหม ?

เมื่อเราสามารถเข้าถึงข้อมูลทุกอย่างได้ผ่านอินเตอร์เน็ต  การศึกษาในโรงเรียนยังจำเป็นอยู่ไหม ?
Photo by Maxim Hopman / Unsplash

ทุกวันนี้ โลกเรามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

การเข้าถึงข้อมูลอย่างไร้พรมแดน ปริมาณข้อมูลมหาศาล

ที่ถูกส่งต่อภายใต้สิ่งที่เรียกว่า “อินเตอร์เน็ต”

.

เนื้อหาที่เรียนสามารถเข้าถึงได้จากโลกอินเตอร์เน็ต

แล้วเราจะเรียนหนังสือในโรงเรียนไปทำไม ?

.

เมื่อไม่กี่วันมานี้ ได้เข้าไปฟัง Clubhouse ห้องหนึ่ง

มีประเด็นที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน

.

เรื่องแรก เขาคุยกันเรื่องแขนงวิชาในมหาวิทยาลัย 

ที่ไม่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน 

สาขาอาชีพบางอย่างที่ผุดขึ้นมาในปัจุบัน 

ไม่มีสอนในมหาลัย

.

เรื่องสอง รู้สึกเอะใจกับอาจารย์มหาลัยท่านหนึ่ง 

แกบอกว่า แกสอนทักษะ ความรู้

ที่คิดว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อเด็กคนนั้นในอนาคต

แกอยากให้เด็กเป็นยังไงก็สอนแบบนั้น

.

เป้าหมายของการศึกษาคืออะไรกันแน่ ?

.

ผลิตซ้ำบุคลากรเพื่อออกมาเป็นแรงงานรับใช้นายทุน ?

ผลิตพลเมืองที่ดีและมีความรักและซื่อสัตย์ต่อชาติ ?

ผลิตบุคคลที่สยบยอมต่ออำนาจรัฐ โดยปราศจากการตั้งคำถาม ที่เป็นภัยต่อความชอบธรรมของการปกครอง ?

.

หรือ ผลิตมนุษย์ ที่เป็นมนุษย์

มีความสามารถในการคิด การตั้งคำถาม 

มีสติปัญญา คิดและวิเคราะห์สาร ?

.

แนวคิดการศึกษา เป็นแนวคิดที่มาจากโลกตะวันตก

.

เอเชียศึกษา เอเชียตะวันออกศึกษา 

เริ่มแรกก็ล้วนมาจากประเทศฝั่งตะวันตกทั้งสิ้น

ตั้งแต่ยุคล่าอาณานิคม….

.

การศึกษาในไทยเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ?

.

คนเราเกิดมาต้องเรียนหนังสือ

การศึกษาภาคบังคับถึงม.3

มีกระทรวงศึกษาธิการกำกับดูแลมาตรฐานการศึกษา

.

แท้จริงแล้วเรียนไปเพื่ออะไร ?

.

การศึกษาในยุคแรก เริ่มต้นแค่คนกลุ่มน้อย….

.

ภายหลัง

การศึกษาถูกผนวกเข้ากับประวัติศาสตร์การสร้างชาติ

.

หรือ อีกนัยนึง 

ประชาชนถูก educate ผ่านระบบการศึกษา 

ให้รู้จัก “ประวัติศาสตร์การสร้างชาติ”

และเป็นส่วนหนึ่งของ “ประวัติศาสตร์การสร้างชาติ”

.

การเกิดขึ้นของโรงเรียนจีนในไทย

กับชาตินิยมจีนที่ผุดขึ้น ภายใต้สถานการณ์ตั้งแต่

ราชวงศ์ชิง ที่ออกกฏหมายเรื่องสัญชาติจีน

อีกทั้งการที่ซุนยัดเซนเคยมาประเทศไทย

เผยแพร่อุดมการณ์การปฏิวัติ

(ซึ่งภายหลังมีการตั้งชื่อถนนเส้นหนึ่งว่า ซอยปาฐกถา หรือปัจจุบันคือ ซอยผลิตผล (ซุนยัดเซน))

.

เมื่อการศึกษากับความเป็นชาตินิยมจีน

กลายมาเป็นอันตรายต่อการควบคุมของรัฐ

เป็นอันตรายต่อความชอบธรรมในการปกครอง

.

รัฐจึงจำเป็นที่จะต้อง “ปิดโรงเรียนจีน”

ทำโรงเรียน จาก “ใต้ดิน” ให้เป็น “บนดิน”

.

มีองค์กรที่เข้ามาบริหารจัดการโรงเรียน โดยรัฐ

เพื่อให้แน่ใจว่า บุคลากรที่ผลิตไปจะสามารถมีความรักและซื่อสัตย์ต่อชาติ ที่ถูกปกครองอยู่โดยคนกลุ่มน้อย

.

และต่อมา

สิ่งที่เรียกว่า ผลประโยชน์ ก็มาถึง

นายทุน ทุนนิยม ที่สามารถให้ประโยชน์แก่รัฐ

ต่างฝ่าย ต่างพึ่งพากัน

.

หน้าที่ของการศึกษา ถูกเขียนขึ้นใหม่

ภายใต้ การศึกษาเพื่อประวัติศาสตร์การสร้างชาติ เดิม

ให้คำอธิบายใหม่ขึ้น ที่สอดคล้องกับอุดมการณ์เดิม

.

การผลิตบุคลากรเพื่อเป็นแรงงานจึงเกิดขึ้น

.

แล้วความจริงแล้ว เราควรเรียนไปเพื่ออะไร ?

.

ไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง และ ไม่มีคำตอบที่ผิด

ถูกและผิดขึ้นอยู่กับวันเวลา….

.

เมื่ออินเตอร์เน็ตกลายมาเป็นอันตรายต่อรัฐ

การบล๊อคการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารเป็นเรื่องยาก

.

เมื่อประชาชนถูกอินเตอร์เน็ตทำให้ “ออกจากกะลา”

ออกจากเซฟโซนที่ผู้ปกครองได้วางแผนไว้

ปัญหาจึงเกิดขึ้น ความไม่สงบที่เกิดขึ้น

.

เมื่อถึงเวลา บางอย่างที่ล้าหลัง ไม่อาจทนต่อสภาวะ

การเปลี่ยนแปลง ก็ต้องหายไป และสิ่งใหม่ก็ต้องมา

สิ่งใดไม่มีการปรับตัวก็จะอยู่ยาก

.

จากสถานะของการส่งบรรณาการจีน

ต้องได้รับการยอมรับจากจีนผ่านตราโลโต

จึงจะมีความชอบธรรมในการปกครอง

ไปสู่ การเข้ามาของโลกตะวันตก

แนวคิดโลกตะวันตกเป็นศูนย์กลางมาแทนที่

กับการนำความเป็นสมัยใหม่(Modern) มาสู่ประชาชน 

ภาพของผู้ปกครองที่ถูกผูกติดกับการแสดงตัวของผู้ปกครอง ในประชาคมโลก กับการเป็นผู้นำของความเป็นสมัยใหม่

.

การนำแนวคิดตะวันตก มาประยุกต์ใช้ปรับปรุง 

และเปลี่ยนแปลง จึงอยู่รอดต่อไปได้

.

จนวันนี้ เมื่ออินเตอร์เน็ตเข้ามาเป็นปัญหาต่อความชอบธรรม

.

ผู้ปกครองจะทำอย่างไร จะนำคำอธิบายอย่างไรมาใช้

เพื่อให้ดำรงไว้ซึ่งความชอบธรรมนั้นได้….

.

ก็เป็นสิ่งที่เราต้องคอยดู และพิสูจน์ด้วยเวลาที่กำลังจะถึง

.

ภูมิรพี แซ่ตั้ง

15 กุมภาพันธ์ 2021